ไม่จำกัดคุณสมบัติผู้ส่งภาพเข้าประกวด
รางวัลในการประกวด
1) รางวัลยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมโล่
2) รางวัลดีเด่น จำนวน1 รางวัล เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมโล่
3) รางวัลสร้างสรรค์ จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 1,000 บาท พร้อมโล่
4) รางวัลเกียรติยศ ทุกคนที่ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจะได้รับเกียรติบัตร
กติกาการส่งภาพเข้าประกวดภาพ
1) ผู้ส่งภาพเข้าประกวดมีสิทธิ์ส่งได้ไม่เกิน 3 ภาพ
2) ภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพที่สื่อความหมายของคำว่า “ความรัก”
3) ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพถ่ายดิจิตัล ถ่ายด้วยกล้องดิจิทตัล
4) ผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องถ่ายภาพด้วยตนเอง ห้ามมิให้นำผลงานผู้อื่นส่งเข้าประกวดและภาพที่ส่งมานั้น
ต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใด ๆ มาก่อน
5) จะต้องไม่มีการปรับสี หรือตกแต่งแก้ไขในด้านเทคนิค เนื่องจากต้องการให้ภาพแลดูเป็นธรรมชาติ
เหมือนถ่ายภาพปกติ ไม่ตกแต่งให้ผิดไปจากความเป็นจริง
6) ส่งภาพเป็นภาพสี โดยอัดขยายรูป ขนาด 10x12 นิ้ว
7) การส่งภาพเข้าประกวดให้กรอกชื่อผู้ถ่าย ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ สถานที่ถ่ายภาพ ลำดับภาพ
ชื่อภาพ คำบรรยายภาพให้ครบสมบูรณ์ ด้านหลังภาพ
8) ภาพที่ส่งประกวดทุกภาพ โรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี มีสิทธิ์นำไปเผยแพร่ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใด ๆ
แก่เจ้าของภาพ ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ไม่ส่งภาพถ่ายคืน
9) การประกวดทุกประเภท คณะกรรมการตัดสินภาพมีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสิน และการตัดสินของคณะกรรมการ
ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ส่งภาพเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
10) คณะกรรมการตัดสิน ไม่มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด
4. ส่งผลงานภาพถ่าย ได้ที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553
5. กำหนดการตัดสิน 12 กุมภาพันธ์ 2553 ทำพิธีมอบรางวัล 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 18.00 น. ณ เวทีงานสีสันแห่งความรัก
โรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี และจัดแสดงผลงาน13 – 28 กุมภาพันธ์ 2553 ณ ลานประชาสัมพันธ์ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี
6. เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม 50 คะแนน
1. เป็นภาพถ่ายที่ประกาศกำหนด 10 คะแนน
2. การสื่อความหมายของความรัก 10 คะแนน
3. ความคมชัด โดดเด่น 10 คะแนน
4. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 10 คะแนน
5. องค์ประกอบศิลป์ 10 คะแนน
สอบถามรายละเอียดได้ที่ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี โทรศัพท์ 073-336090-6
โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี 299 หมู่ 4 ถนนหนองจิก ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 94000
31 มกราคม 2553
ททท. ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งมอบความสุขในเทศกาล
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายฉิน ยู่เซิน ทูตวัฒนธรรมประจำสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนที่เกี่ยวข้องจาก 10 พื้นที่ลัก ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี(พัทยา) เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครราชสีมา สงขลา(หาดใหญ่) ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าว เทศกาลตรุษจีน ไชน่าทาวน์ในประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้เทศกาลตรุษจีนเป็นกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวจากนานาชาติ โดยเฉพาะตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ และมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน จากนโยบายของ ททท. มุ่งผลักดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมและสร้างสรรค์กิจกรรมทางการท่องเที่ยวเป็นการดึงดูด เช่นเทศกาลตรุษจีนที่มีจุดเด่นและมีจุดแข็งโดยชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากที่อาศัยอยู่หลายพื้นที่ด้วยกัน ที่สำคัญคือเทศกาลตรุษจีน ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทั้งนี้งานเทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์ที่ ททท. สนับสนุนรวม 10 พื้นที่ใน 5 ภูมิภาคของประเทศไทยประกอบด้วยเทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์เยาวราช(14-15 กุมภาพันธ์) งานอภินิหารมังกรสวรรค์ ตรุษจีนสุพรรรบุรี(12-16 กุมภาพันธ์) ตรุษจีนกรุงเก่าอยุธยามหามงคล “มหาเฮง”(15-19 กุมภาพันธ์) ตรุษจีนเมืองพัทยา(14-16 กุมภาพันธ์) ราชบุรีไชน่าทาวน์ (14-22 กุมภาพันธ์) งานไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ 8 (14-15 กุมภาพันธ์) ประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ (7-18 กุมภาพันธ์) ตรุษจีนโคราช (13-15 กุมภาพันธ์) ตรุษจีนหาดใหญ่ (14-17 กุมภาพันธ์) และตรุษจีน ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต ครั้งที่ 11 (19-21 กุมภาพันธ์) รวมทุกพื้นที่มีระยะเวลาจัดงานคาบเกี่ยว ยาวนานกว่า 2 สัปดาห์ ในปีนี้ ททท. ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ให้การสนับสนุนสุดยอดศิลปการแสดงจาก มณฑลต่าง ๆ และเขตปกครองพิเศษของจีน อาทิ มวยกังฟูจากนครปักกิ่ง งิ้วราชสำนักจากมณฑลจี๋หลิน การแสดงเปลี่ยนหน้ากากจากมณฑลเสฉวน ระบำชนเผ่า ของทิเบต ระบำฮุยกูซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย (จีนมุสลิม) ในเขตซินเกียง ระบำมองโกล ฯลฯ ล้วนหาชมได้ยากและมาจากหลากหลายทั่วภูมิภาคของจีนแผ่นดินใหญ่ การแสดงดังกล่าวจะเริ่มเปิดตัวในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นจะเปิดรอบแสดงพิเศษ ณ โรงละครแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ 2553 จัดแสดงวันละ 2 รอบ บัตรราคา 1,000 / 500 / 200 บาท และ 50 บาทสำหรับนักเรียน นักศึกษา รายได้จากการจำหน่ายบัตร จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้จ่ายตามพระราชอัธยาศัย สามารถซื้อบัตรได้ที่ โรงละครแห่งชาติ หรือที่งานจำหน่ายและจัดเก็บรายได้ ททท. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ ทั้ง 2 ประเทศ โดยผ่านวัฒนธรรมเป็นสื่อกลาง ซึ่งคณะนักแสดง บุคคลสำคัญ และสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมกว่า 200 ราย ที่เดินทางเข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าว ยังจะได้เดินทางหมุนเวียนไปเปิดการแสดงในพื้นที่อื่น ๆ อีกด้วย ซึ่ง ททท. ได้สอดแทรกการพาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช็อปปิ้งศูนย์การค้า ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ สยามนิรมิต อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี ล่องเรือแม่น้ำสะแกกรัง วัดท่าซุง ชมสินค้าโอทอปหมู่บ้านด่านเกวียน เป็นต้น กิจกรรมข้างต้นนอกจากจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว ยังส่งผลดีต่อการขยายผลประชาสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน
ขอเชิญส่งภาพถ่ายเข้าร่วมการแข่งขัน หัวข้อ "24 CRU Life"
ผศ.ดร.มาณพ ภาษิตวิไลธรรม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้กำหนดให้มีการประกวดภาพถ่าย ในหัวข้อ “24 CRU Life” ในโอกาสวันราชภัฏ 2553 เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา อาจารย์และบุคลากรระดับต่างๆ ของมหาวิทยาลัยฯ และประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการสร้าง รับรู้ และเผยแพร่บรรยากาศทางวิชาการในการเรียนการสอน การวิจัย รวมทั้งบรรยากาศในการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อีกทั้งเป็นการรวบรวมภาพถ่ายของมหาวิทยาลัยเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ” อธิการบดี กล่าว “ผศ.ดร.มาณพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดการประกวดภาพถ่ายครั้งนี้ จะเป็นการเปิดมุมมองให้เห็นภาพที่ชัดเจนของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายที่มีนโยบายเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่มุ่งให้โอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชน ผลิตบัณฑิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่พร้อมด้วยความรู้ คุณธรรมและจริยธรรม เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของประชาชน และสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐรวมทั้งภาคเอกชน โดยจะเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากรของมหาวิทยาลัยรวมถึงประชาชนภายนอกให้เข้ามาถ่ายภาพมหาวิทยาลัยในแง่มุมต่างๆ ทั้งด้านทัศนียภาพ กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมทางวิชาการและในด้านประเพณีและวัฒนธรรม โดยภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะการดำเนินงาน บรรยากาศต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนภาพลักษณ์หรือมุมมองด้านสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ผู้สนใจสามารถส่งผลงานด้วยตัวเองที่ งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มรช.หรือ ส่งทาง www.24chiangraidigital.com ตั้งแต่วันนี้ – 10 กุมภาพันธ์ นี้
รางวัลชนะเลิศ จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 10,000 บาท,
รองฯ อันดับที่ 1 จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 5,000 บาท,
รองฯ อันดับที่ 2 จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 3,000 บาท
นอกจากนั้นภาพที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศนียบัตรและเงินรางวัล 500 บาทอีกด้วย” ผศ.ดร.มาณพ กล่าว
รางวัลชนะเลิศ จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 10,000 บาท,
รองฯ อันดับที่ 1 จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 5,000 บาท,
รองฯ อันดับที่ 2 จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 3,000 บาท
นอกจากนั้นภาพที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศนียบัตรและเงินรางวัล 500 บาทอีกด้วย” ผศ.ดร.มาณพ กล่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)