31 มกราคม 2553

การประกวดภาพถ่าย “ความรัก”

ไม่จำกัดคุณสมบัติผู้ส่งภาพเข้าประกวด
รางวัลในการประกวด
1) รางวัลยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมโล่
2) รางวัลดีเด่น จำนวน1 รางวัล เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมโล่
3) รางวัลสร้างสรรค์ จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 1,000 บาท พร้อมโล่
4) รางวัลเกียรติยศ ทุกคนที่ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจะได้รับเกียรติบัตร
กติกาการส่งภาพเข้าประกวดภาพ
1) ผู้ส่งภาพเข้าประกวดมีสิทธิ์ส่งได้ไม่เกิน 3 ภาพ
2) ภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพที่สื่อความหมายของคำว่า “ความรัก”
3) ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพถ่ายดิจิตัล ถ่ายด้วยกล้องดิจิทตัล
4) ผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องถ่ายภาพด้วยตนเอง ห้ามมิให้นำผลงานผู้อื่นส่งเข้าประกวดและภาพที่ส่งมานั้น
ต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใด ๆ มาก่อน
5) จะต้องไม่มีการปรับสี หรือตกแต่งแก้ไขในด้านเทคนิค เนื่องจากต้องการให้ภาพแลดูเป็นธรรมชาติ
เหมือนถ่ายภาพปกติ ไม่ตกแต่งให้ผิดไปจากความเป็นจริง
6) ส่งภาพเป็นภาพสี โดยอัดขยายรูป ขนาด 10x12 นิ้ว
7) การส่งภาพเข้าประกวดให้กรอกชื่อผู้ถ่าย ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ สถานที่ถ่ายภาพ ลำดับภาพ
ชื่อภาพ คำบรรยายภาพให้ครบสมบูรณ์ ด้านหลังภาพ
8) ภาพที่ส่งประกวดทุกภาพ โรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี มีสิทธิ์นำไปเผยแพร่ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใด ๆ
แก่เจ้าของภาพ ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ไม่ส่งภาพถ่ายคืน
9) การประกวดทุกประเภท คณะกรรมการตัดสินภาพมีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสิน และการตัดสินของคณะกรรมการ
ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ส่งภาพเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
10) คณะกรรมการตัดสิน ไม่มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด
4. ส่งผลงานภาพถ่าย ได้ที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553
5. กำหนดการตัดสิน 12 กุมภาพันธ์ 2553 ทำพิธีมอบรางวัล 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 18.00 น. ณ เวทีงานสีสันแห่งความรัก
โรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี และจัดแสดงผลงาน13 – 28 กุมภาพันธ์ 2553 ณ ลานประชาสัมพันธ์ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี
6. เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม 50 คะแนน
1. เป็นภาพถ่ายที่ประกาศกำหนด 10 คะแนน
2. การสื่อความหมายของความรัก 10 คะแนน
3. ความคมชัด โดดเด่น 10 คะแนน
4. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 10 คะแนน
5. องค์ประกอบศิลป์ 10 คะแนน
สอบถามรายละเอียดได้ที่ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี โทรศัพท์ 073-336090-6
โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี 299 หมู่ 4 ถนนหนองจิก ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 94000

ททท. ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งมอบความสุขในเทศกาล








นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายฉิน ยู่เซิน ทูตวัฒนธรรมประจำสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนที่เกี่ยวข้องจาก 10 พื้นที่ลัก ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี(พัทยา) เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครราชสีมา สงขลา(หาดใหญ่) ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าว เทศกาลตรุษจีน ไชน่าทาวน์ในประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้เทศกาลตรุษจีนเป็นกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวจากนานาชาติ โดยเฉพาะตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ และมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน จากนโยบายของ ททท. มุ่งผลักดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมและสร้างสรรค์กิจกรรมทางการท่องเที่ยวเป็นการดึงดูด เช่นเทศกาลตรุษจีนที่มีจุดเด่นและมีจุดแข็งโดยชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากที่อาศัยอยู่หลายพื้นที่ด้วยกัน ที่สำคัญคือเทศกาลตรุษจีน ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทั้งนี้งานเทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์ที่ ททท. สนับสนุนรวม 10 พื้นที่ใน 5 ภูมิภาคของประเทศไทยประกอบด้วยเทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์เยาวราช(14-15 กุมภาพันธ์) งานอภินิหารมังกรสวรรค์ ตรุษจีนสุพรรรบุรี(12-16 กุมภาพันธ์) ตรุษจีนกรุงเก่าอยุธยามหามงคล “มหาเฮง”(15-19 กุมภาพันธ์) ตรุษจีนเมืองพัทยา(14-16 กุมภาพันธ์) ราชบุรีไชน่าทาวน์ (14-22 กุมภาพันธ์) งานไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ 8 (14-15 กุมภาพันธ์) ประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ (7-18 กุมภาพันธ์) ตรุษจีนโคราช (13-15 กุมภาพันธ์) ตรุษจีนหาดใหญ่ (14-17 กุมภาพันธ์) และตรุษจีน ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต ครั้งที่ 11 (19-21 กุมภาพันธ์) รวมทุกพื้นที่มีระยะเวลาจัดงานคาบเกี่ยว ยาวนานกว่า 2 สัปดาห์ ในปีนี้ ททท. ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ให้การสนับสนุนสุดยอดศิลปการแสดงจาก มณฑลต่าง ๆ และเขตปกครองพิเศษของจีน อาทิ มวยกังฟูจากนครปักกิ่ง งิ้วราชสำนักจากมณฑลจี๋หลิน การแสดงเปลี่ยนหน้ากากจากมณฑลเสฉวน ระบำชนเผ่า ของทิเบต ระบำฮุยกูซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย (จีนมุสลิม) ในเขตซินเกียง ระบำมองโกล ฯลฯ ล้วนหาชมได้ยากและมาจากหลากหลายทั่วภูมิภาคของจีนแผ่นดินใหญ่ การแสดงดังกล่าวจะเริ่มเปิดตัวในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นจะเปิดรอบแสดงพิเศษ ณ โรงละครแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ 2553 จัดแสดงวันละ 2 รอบ บัตรราคา 1,000 / 500 / 200 บาท และ 50 บาทสำหรับนักเรียน นักศึกษา รายได้จากการจำหน่ายบัตร จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้จ่ายตามพระราชอัธยาศัย สามารถซื้อบัตรได้ที่ โรงละครแห่งชาติ หรือที่งานจำหน่ายและจัดเก็บรายได้ ททท. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ ทั้ง 2 ประเทศ โดยผ่านวัฒนธรรมเป็นสื่อกลาง ซึ่งคณะนักแสดง บุคคลสำคัญ และสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมกว่า 200 ราย ที่เดินทางเข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าว ยังจะได้เดินทางหมุนเวียนไปเปิดการแสดงในพื้นที่อื่น ๆ อีกด้วย ซึ่ง ททท. ได้สอดแทรกการพาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช็อปปิ้งศูนย์การค้า ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ สยามนิรมิต อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี ล่องเรือแม่น้ำสะแกกรัง วัดท่าซุง ชมสินค้าโอทอปหมู่บ้านด่านเกวียน เป็นต้น กิจกรรมข้างต้นนอกจากจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว ยังส่งผลดีต่อการขยายผลประชาสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน

ขอเชิญส่งภาพถ่ายเข้าร่วมการแข่งขัน หัวข้อ "24 CRU Life"

ผศ.ดร.มาณพ ภาษิตวิไลธรรม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้กำหนดให้มีการประกวดภาพถ่าย ในหัวข้อ “24 CRU Life” ในโอกาสวันราชภัฏ 2553 เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา อาจารย์และบุคลากรระดับต่างๆ ของมหาวิทยาลัยฯ และประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการสร้าง รับรู้ และเผยแพร่บรรยากาศทางวิชาการในการเรียนการสอน การวิจัย รวมทั้งบรรยากาศในการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อีกทั้งเป็นการรวบรวมภาพถ่ายของมหาวิทยาลัยเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ” อธิการบดี กล่าว “ผศ.ดร.มาณพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดการประกวดภาพถ่ายครั้งนี้ จะเป็นการเปิดมุมมองให้เห็นภาพที่ชัดเจนของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายที่มีนโยบายเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่มุ่งให้โอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชน ผลิตบัณฑิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่พร้อมด้วยความรู้ คุณธรรมและจริยธรรม เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของประชาชน และสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐรวมทั้งภาคเอกชน โดยจะเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากรของมหาวิทยาลัยรวมถึงประชาชนภายนอกให้เข้ามาถ่ายภาพมหาวิทยาลัยในแง่มุมต่างๆ ทั้งด้านทัศนียภาพ กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมทางวิชาการและในด้านประเพณีและวัฒนธรรม โดยภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะการดำเนินงาน บรรยากาศต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนภาพลักษณ์หรือมุมมองด้านสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ผู้สนใจสามารถส่งผลงานด้วยตัวเองที่ งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มรช.หรือ ส่งทาง www.24chiangraidigital.com ตั้งแต่วันนี้ – 10 กุมภาพันธ์ นี้
รางวัลชนะเลิศ จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 10,000 บาท,
รองฯ อันดับที่ 1 จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 5,000 บาท,
รองฯ อันดับที่ 2 จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 3,000 บาท
นอกจากนั้นภาพที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศนียบัตรและเงินรางวัล 500 บาทอีกด้วย” ผศ.ดร.มาณพ กล่าว

28 มกราคม 2553

โครงการการถ่ายภาพงานดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ปี ‘53


ขอเชิญผู้ที่รักการถ่ายภาพร่วมส่งผลงานเข้าประกวด “มุมมองภาพงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย 2010” เพื่อค้นหาสุดยอดภาพถ่ายบรรยากาศงาน
เจ้า ของสุดยอดภาพถ่าย จะได้รับการนำเสนอผ่านเว็บไซต์สื่อเสรีเลย พร้อมรางวัลเงินสด 3,000 บาท และประกาศนียบัตร การตีพิมพ์รูปเล่มรวมภาพบรรยากาศงานกาชาด 53 เพื่อนำแจกหน่วยงานในจังหวัดเลย โอกาสเดียวที่ภาพถ่ายของคุณจะถูกเผยแพร่สู่สายตาของผู้อ่านหนังสือรวมภาพงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย 53
หลักการและเหตุผล งานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวาน เมืองเลย เป็นเทศกาลประจำปีของจังหวัดเลย จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ บริเวณสวนสาธารณะของเทศบาลเมืองเลย เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และเพื่อส่งเสริมพืชเศรษฐกิจของจังหวัดเลย คือ ฝ้าย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ควบคู่กับงานกาชาด เป็นงานนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ให้จังหวัดจัดขึ้นเพื่อแสดงออกถึงศิลปะวัฒนะธรรม วิถีชีวิตของคนในชุมชนท้องถิ่น และการเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนรวมจากหลากหลายสาขาอาชีพ ในการจัดงานกาชาดดอกฝ้ายบานที่ผ่านมา ยังคงรักษาเอกลักษณ์ และได้ปรับเปลี่ยนไปตามนโยบายของผู้นำในช่วงนั้นๆ ตามกระแสเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่เข้ามาในสังคมของชาวไทเลย ทำให้งานกาชาดดอกฝ้ายบานมีพัฒนาการ เสริมสร้างความโดดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัย พร้อมๆ กับการเสริมสร้างความสัมพันธ์และการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมกับวิถีชีวิตไทเลยที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ที่สามารถมองเห็นด้วยสายตาของผู้เข้าชมงานไม่ว่าทั้งชาวจังหวัดเลยและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเลย ทั้งขบวนแห่ในพิธีเปิด การออกร้านของหน่วยงานราชการ กลุ่มองค์กร และประชาชน รวมถึงการแต่งกายของผู้เข้าร่วมงาน แต่ยังคงไม่มีการเก็บรวบรวมภาพบรรยากาศการจัดงานไว้ในแต่ละปีอย่างจริงจัง ปัจจุบันด้วยความทันสมัยทางด้านเทคโนโลยี ทำให้การเก็บบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในรูปแบบภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีการบันทึกภาพกำลังเป็นที่นิยมเพราะด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม ราคาถูก และใช้ง่าย และคุณภาพที่แสดงผลของการบันทึกออกมาได้สมจริงสวยงาม และหนึ่งในความนิยมนั้นก็คือการบันทึกนิ่ง หรือการถ่ายภาพนิ่งที่ปัจจุบันจะเห็นได้จากที่เป็นที่นิยมซื้อติดตัวและมีการบันทึกภาพ เหตุการณ์ต่างๆ ในหลากหลายสถานการณ์ทั้งงานแต่งงาน งานประชุม การไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ รวมถึงการทำงานตั้งแต่ระดับบุคคล รวมไปถึงกลุ่มคนในระดับองค์กร เพื่อเก็บบันภาพเรื่องราวในช่วงเวลานั้นไว้ เพื่อแสดงต่อผ่านสื่อต่างๆ ทั้งยังเป็นหลักฐานยืนยัน แก่ผู้อื่นได้ โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยวที่ต้องมีการบันทึกภาพเข้ามาช่วยส่งเสริมสร้างแรงจูงใจและการประชาสัมพันธ์เป็นอย่างมากดังที่ได้ปรากฏตามนิตยสาร และเว็บบอร์ดภาพทางอินเตอร์เน็ตดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวงานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลยและการมีส่วนรวมของชาวจังหวัดเลยและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงการจัดงาน ทางกลุ่มสื่อเสรีเลยจึงได้มีมติร่วมกัน ในการจัดการประกวดถ่ายภาพ มุมมองบรรยากาศงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ประจำปี ๒๕๕๓ ขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างการมีส่วนร่วมของผู้เข้าชมงาน ในการบันทึกภาพในมุมมองการจัดงาน ผ่านกล้องถ่ายภาพนิ่ง เพื่อรวบรวมบันทึกภาพเรื่องราว เพื่อการประชาสัมพันธ์งานและการตีพิมพ์เป็นหลักฐานเพื่อแจกจ่ายแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง และมีความสนใจ ที่ต้องเก็บและเปิดชมภาพที่เกิดจากมุมมองของนักถ่ายภาพอย่างหลากหลาย และเพื่อเป็นข้อมูลให้คนรุ่นต่อไปได้ศึกษาขอเชิญผู้ที่รักการถ่ายภาพร่วมส่งผลงานเข้าประกวด “มุมมองภาพงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ๒๕๕๓” เพื่อค้นหาสุดยอดภาพถ่ายบรรยากาศงานเจ้าของสุดยอดภาพถ่าย จะได้รับการนำเสนอผ่านเว็บไซต์สื่อเสรีเลย พร้อมรางวัลเงินสด 3,000 บาท และประกาศนียบัตร การตีพิมพ์รูปเล่มรวมภาพบรรยากาศงานกาชาด ๕๓ เพื่อนำแจกหน่วยงานในจังหวัดเลยโอกาสเดียวที่ภาพถ่ายของคุณจะถูกเผยแพร่สู่สายตาของผู้อ่านหนังสือรวมภาพงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ๕๓
วัตถุประสงค์๑. เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวงานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลย ประจำปี ๒๕๕๓๒. เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่วมบันทึกและรวบรวมภาพงานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลย เพื่อการประชาสัมพันธ์ทางสื่อหลากหลายประเภทต่อไป ผลที่คาดว่าจะได้รับ๑. เกิดการมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ “งานกาชาด ดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลยประจำปี ๒๕๕๓” ผ่านมุมมองและทรรศนะจากภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ๒. เกิดการกระตุ้นและสร้างกระแสในการร่วมกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณี ในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดงานในปีต่อๆไป
ผลที่คาดว่าจะได้รับ1. เป็นการประชาสัมพันธ์งานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลยแก่ชาวจังหวัดเลยและนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมงานเพิ่มมากขึ้น2. เก็บรวบรวมภาพเรื่องราวเหตุการณ์ งานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย เพื่อการ ประชาสัมพันธ์ และตีพิมพ์เป็นหนังสือ 1 เล่ม เพื่อแจก3. ชาวจังหวัดเลยจิตสำนึกร่วมกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด ผ่านการถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายรูป
เกณฑ์และเงื่อนไขการประกวดผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมการประกวด - ประเภทบุคคลทั่วไป ค่าสมัคร ๑๐๐ บาท- ประเภทเยาวชน อายุไม่เกิน ๒๔ ปี ค่าสมัคร ๕๐ บาท*สมาชิกกลุ่มสื่อเสรีเลย และครอบครัว และผู้มีส่วนในการจัดการประกวดไม่มีสิทธิ์ส่งประกวด*
สิ่งที่ต้องส่งเข้าประกวด - ภาพถ่ายสีหรือขาวดำ ขนาดไม่ต่ำกว่า ๑๒ x๑๘ นิ้ว ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มหรือกล้องดิจิทัล (อย่างใดอย่างหนึ่ง) พร้อมฟิล์มหรือไฟล์ต้นฉบับ - กรณี ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ให้ส่งภาพถ่ายพร้อมแนบสำเนาสไลด์หรือฟิล์ม 35 มม.โดยแผ่นสไลด์ต้องใส่กรอบกระดาษแข็งหรือกรอบพลาสติกขนาด ๒x๒ นิ้ว (สำหรับจัดส่งให้กลุ่มสื่อเสรี เพื่อตีพิมพ์) - กรณี ถ่ายด้วยกล้องดิจิทัล ให้ส่งภาพถ่ายพร้อมแนบไฟล์โดยไรท์ใส่แผ่นซีดี เป็นไฟล์ JPEG ขนาดความละเอียดของภาพไม่ต่ำกว่า ๖ ล้านพิกเซล ความละเอียด ๓๐๐ dpi - ผู้ประกวดสามารถส่งภาพถ่ายได้คนละไม่เกิน ๓ ภาพเท่านั้น - ส่งใบสมัครให้ครบถ้วนพร้อมกับผลงานที่ส่งเข้าประกวด โดยเขียนคำบรรยายภาพสั้นๆ มาด้วย - กรณีส่งประกวดเป็นภาพถ่ายบุคคล ในภาพที่ได้รับคัดเลือก ต้องขออนุญาตบุคคลในภาพนั้นด้วย เงื่อนไข - ผู้ส่งประกวดต้องระบุชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อกลับ คำบรรยายภาพให้ตรงกับภาพ ลงในซองเอกสารการสมัครให้ชัดเจน - ภาพถ่ายต้องเป็นภาพถ่ายบรรยากาศงานกาชาด ดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ปี ๒๕๕๓ เท่านั้น และไม่เคยผ่านการตีพิมพ์ - ภาพถ่ายที่มีการตัดต่อ จะไม่ได้รับการพิจารณา - ผู้ส่งผลงานต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพถ่ายทุกภาพที่ส่งเข้าประกวด (เป็นผู้ถ่ายภาพเอง) - ผู้จัดการประกวดจะไม่ส่งผลงานกลับคืนให้ผู้เข้าประกวด - ภาพถ่ายทุกภาพหลังจากการประกวดเสร็จสิ้น จะต้องเป็นลิขสิทธิ์ของกลุ่มสื่อเสรีเลย *หมายเหตุ* :ผลงานประกวดที่ไม่เป็นไปตามกติกา-เงื่อนไขการประกวดข้างต้นจะไม่ได้รับการพิจารณาและหากภาพนั้นได้รับรางวัลผู้จัดการประกวดมีสิทธิ์เรียกคืนรางวัล ขอบข่ายการประกวด ๑. บรรยากาศพิธีเปิด ขบวนแห่ ๒. สถานที่เกี่ยวข้องกับงานดอกฝ้ายบานฯ ๓. บรรยากาศภายในงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ๔. การออกร้านของหน่วยงานราชการ ผลิตภัณฑ์จังหวัดเลย
กำหนดการ - การรับสมัคร เริ่มรับตั้งแต่วันที่ ๑-๗ กุมภาพันธ์ 2553 - สถานที่รับสมัคร: ร้านเมืองเลยการพิมพ์ / ร้านเมืองเลยเคลือบรูป - วันตัดสินและการแสดงผลงาน: ผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะถูกจัดแสดงในวันที่ ๘-๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ในงานดอกฝ้ายบาน และผ่านทางเว็บไซต์ www.linkloei.com - ประกาศผลอย่างเป็นทางการ: วันสุดท้ายงานดอกฝ้ายบาน ณ เวทีกลางรางวัลการประกวด •
รางวัลประเภทบุคคลทั่วไป
รางวัลที่ ๑ เงินรางวัล ๓,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
รางวัลที่ ๒ เงินรางวัล ๒,๐๐๐บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
รางวัลที่ ๓ เงินรางวัล ๑,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย•
รางวัลประเภทเยาวชน
รางวัลที่ ๑ เงินรางวัล ๓,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
รางวัลที่ ๒ เงินรางวัล ๒,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
รางวัลที่ ๓ เงินรางวัล ๑,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
*** (ทุกภาพที่ได้รับรางวัลจะใส่กรอบอย่างดีให้ทุกภาพ)
- ผู้ส่งภาพเข้าประกวดที่ผ่านการพิจารณาจำนวน ๕๐ ภาพจะถูกตีพิมพ์ลงหนังสือบันทึกเรื่องราวงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ประจำปี ๒๕๕๓ พร้อมแจกแก่หน่วยงานราชการ ร้านค้า องค์กร(ผู้จัดขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
สอบถามรายละเอียดได้ที่
'webmaster@linkloei.com

อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปเพื่ออ่านมันได้
http://www.linkloei.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=42&Itemid=1
หรือ โทร 081-2968333

โครงการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ ดุจดั่งภาพฝันจันทบูร

โครงการ งานประกวดภาพถ่าย “ ดุจดั่งภาพฝันจันทบูร ” เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับโครงการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนกิจการการท่องเที่ยวใน จังหวัดจันทบุรีประจำปีงบประมาณ 2553 และเพื่อให้การดำเนินงานไปสู่เป้าหมายในยุทธศาสตร์ ด้านกิจกรรมส่งเสริมประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยว ให้มีการพัฒนาความพร้อมของจังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด จันทบุรีโดยมุ่งเน้นที่การประชาสัมพันธ์เชิงรุกส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่นิยม ของประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศได้เข้ามาเที่ยวและถ่ายภาพดังนั้น เพื่อให้เกิดการบริหาร การจัดการด้านการท่องเที่ยว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล และเกิดประโยชน์ สูงสุดในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่กระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจการจัดงานประกวดภาพถ่าย จะเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งการพัฒนา ให้มีการบริการและเกิดภาพลักษณ์ ที่ดีของจังหวัดจันทบุรีอันจะก่อให้เกิดการสร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดจันทบุรีอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง ซึ่งสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ.2553 จะทำให้เกิดการขับเคลื่อน ของระบบเศรษฐกิจภายใน จังหวัดจันทบุรี อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ทราบและรู้จัก จังหวัดจันทบุรีมากขึ้นด้วย
เป้าหมาย
เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรีประสบผลสำเร็จ
เพื่อให้การจัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย “ดุจดั่งภาพฝันจันทบูร” ประสบผลสำเร็จ
เพื่อให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวมีปริมาณมากขึ้น
เงื่อนไขการประกวดภาพถ่าย ดุจดั่งภาพฝันจันทบูร
ผู้มีสิทธิ์ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ทุกเพศ ทุกวัย โดยไม่เสียค่าสมัครใดๆ กติกาการส่งภาพถ่ายเข้าประกวด
1. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ต้องเป็นภาพถ่ายที่แสดงถึงสถานที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเชิงนิเวศน์ เชิงประวัติศาสตร์ หัตถกรรม สถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา วิถีชีวิตพอเพียง ชุมชน เกษตรวิถีไทย สวนผลไม้ สัตว์ต่างๆ เชิงเขา ที่มีทิวทัศน์สวยงาม ทุกแนวของภาพที่เป็นเอกลักษณ์แสดงถึงความสวยงาม การรักษ์โลก ความเป็นอยู่ในเวลาและมุมมอง ต่างๆ ของชาวจังหวัดจันทบุรี ภายในจังหวัดจันทบุรี
2. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ต้องเป็นภาพสี หรือขาวดำ ขนาดภาพด้านกว้าง 12 นิ้ว ด้านยาว 18 นิ้ว ถ่ายจากกล้องฟิล์ม สามารถอัดขยายจากต้นฉบับที่เป็นฟิล์มสี ฟิล์มขาวดำ ฟิล์มสไลด์ หรือถ่ายจากกล้องดิจิตอล ที่มีความละเอียดไม่ต่ำ กว่า 8 ล้านพิกเซล โดยผู้ส่งเข้าประกวดห้ามตัดต่อภาพ แต่สามารถตกแต่งภาพได้บ้าง โดยไม่ผิดไปจากความเป็นจริง
3. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ต้องติดบนการ์ดแข็งสีดำ กำหนดให้เหลือขอบภาพโดยรอบด้านละ 2 นิ้ว พร้อมคำบรรยาย ใต้ภาพ ด้านหลังระบุ ชื่อ-สกุล ผู้ถ่ายภาพ ระบุที่อยู่ตามกฎหมายที่ตรวจสอบได้ เพื่อยืนยันความถูกต้อง หรือที่อยู่ ที่ติดต่อได้โดยสะดวกและสถานที่ถ่ายภาพ ชื่อภาพ รูปแบบการถ่ายภาพและลักษณะของภาพ
4. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด ต้องลงทะเบียนสมัครพร้อมส่งภาพถ่าย ฟิล์ม หรือไฟล์ต้นฉบับ บันทึกลงแผ่น CD-R เป็น JPEG file จำนวนหนึ่งภาพต่อหนึ่งแผ่น
5. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดทางไปรษณีย์ ต้องไม่กระทำผิดเงื่อนไขข้างต้นและจะถือวันที่ไปรษณีย์ประทับตราเป็นสำคัญ
6. ภาพที่ส่งเข้าประกวด ต้องถ่ายโดยผู้ส่งภาพเข้าประกวดเท่านั้น ต้องเป็นภาพถ่ายที่ไม่เคยเผยแพร่ในที่สาธารณะ ไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใดๆ มาก่อน หากพิสูจน์ได้ภายหลัง ว่าผู้ส่งภาพเข้าประกวดกระทำผิดเงื่อนไข ข้างต้น ผู้จัดการประกวดสงวนสิทธิ์ในการเรียกรางวัลที่ได้รับไปแล้ว กลับคืนหรือตัดสิทธิในการรับรางวัล
7. คณะกรรมการตัดสิน มีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสิน โดยยึดถือแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสากลและผลการตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สุด
8. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดคนหนึ่ง มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวดได้ไม่จำกัดจำนวนภาพ และมีสิทธิ์ได้รับรางวัลได้หลายรางวัล ซึ่งรางวัลที่ได้รับเป็นเงินสด ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 5 ของเงินรางวัลที่ได้รับ
9. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดทุกภาพ รวมทั้งฟิล์มหรือไฟล์ต้นฉบับ ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จัดการประกวด โดยสงวน สิทธิ์ไม่ส่งคืนแก่ผู้ส่งภาพเข้าประกวด และผู้จัดการประกวดเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่ายดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น ภาพที่ได้รับรางวัลหรือไม่ก็ตาม โดยผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด คงมีกรรมสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 18 มีสิทธิ์ในการแสดงตัวว่าเป็นผู้สร้างสรรค์งาน และมีสิทธิ์ในการห้ามไม่ให้ผู้อื่นเอางานของตนไปดัดแปลง ให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของผู้สร้างสรรค์งานตลอดไป
10. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดทุกคน ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ข้างต้นทุกประการ หากฝ่าฝืนจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้า ประกวดหรือรับรางวัล รวมทั้งผู้จัดการประกวดอาจเรียกรางวัลที่ได้รับไปแล้ว กลับคืน
11. คณะกรรมการตัดสินและคณะกรรมการดำเนินงานการประกวดภาพถ่าย ดุจดั่งภาพฝันจันทบูร ไม่มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวดกรรมการตัดสินภาพถ่ายโครงการ งานประกวดภาพถ่าย “ ดุจดั่งภาพฝันจันทบูร ”
ประธานดำเนินงานการตัดสินภาพถ่าย
อาจารย์พิสิฐ เสนานันท์สกุล ศิลปินนักถ่ายภาพไทย ปี 2552
คณะกรรมการตัดสินภาพถ่ายผู้ทรงคุณวุฒิ
1. นายยรรยง โอฬาระชิน ศิลปินแห่งชาติ ปี 2550 สาขาศิลปภาพถ่าย
2. นายสวัสดิ์ ปฏิภาณประเสริฐ ประธานสมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย
3. รองศาสตราจารย์สมาน เฉตระการ ผู้บำเบ็ญประโยชน์การถ่ายภาพไทย
4. รองศาสตราจารย์ชัยยศ วนิชวัฒนานุวัติ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา สาขานิเทศศาสตร์
5. อาจารย์สงคราม โพธิ์วิไล ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพ
6. นายวรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ ปี 2552 สาขาภาพถ่าย
7. นายวิชัย พรเศรษฐ์ถาวร นายกสมาคมถ่ายภาพกรุงเทพฯ
8. อาจารย์เกรียงไกร ไวยกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพ กลุ่มสห+ภาพ
9. นายวันชัย สืบสมาน ช่างภาพกิตติมศักดิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
10.เจ้าหน้าที่จากนิตยสาร อสท.รางวัลประกวดภาพถ่าย “ ดุจดั่งภาพฝันจันทบูร ”
รางวัลชนะเลิศ
จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล เงินสด 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลฯ
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1
จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล เงินสด 50,000บาท พร้อมถ้วยรางวัลจาก นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี
รางวัลรองชนะเลิศ
จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล เงินสด 30.000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลจาก นายพงศธร สัจจชลพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี
รางวัลชมเชย
จำนวน 25 รางวัล เงินรางวัล เงินสด 3,000 บาทพร้อมใบประกาศเกียรติคุณ จากประธานฯ และคณะกรรมการการจัดงาน
กำหนดการงานประกวดภาพถ่าย “ ดุจดั่งภาพฝันจันทบูร ”
1. ลงทะเบียนสมัคร และส่งภาพถ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2553 ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่จันทบุรีผู้สมัครทางไปรษณีย์ จะถือเอาวันที่ไปรษณีย์ประทับตราเป็นสำคัญ
2. ตัดสินภาพถ่ายที่ได้รับรางวัล ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 ณ ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี
3. ประกาศผลการประกวดภาพถ่าย วันที่ 11 พฤษภาคม 2553 ทางเว็บไซต์ http://janthaburi.excise.go.th/ และบอร์ดหน้าสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่จันทบุรี
4. มอบรางวัล ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม มณีจันท์ รีสอร์ท จังหวัดจันทบุรี

ขอเชิญร่วมประกวดภาพถ่ายกับ วสท. ครั้งที่ 2


2. ภาพถ่ายหัวข้อ : ความสุข

2.1 สมาชิก วสท. และบุคคลทั่วไป 1 รางวัล

2.2 นักศึกษา 1 รางวัล

รางวัลชนะเลิศ

- รางวัลเงินสด 2,000 บาท

- ใบประกาศเกียรติคุณจาก วสท.

- นำภาพลงจดหมายข่าว วสท.

- ประกาศในเว็บไซต์ วสท.รางวัลชมเชย

- ใบประกาศเกียรติคุณ จาก วสท.

- นำภาพขึ้นเว็บไซต์ วสท.




1. ภาพถ่ายหัวข้อ : ความปลอดภัย ด้านวิศวกรรม
1.1 สมาชิก วสท. และบุคคลทั่วไป 1 รางวัล
1.2 นักศึกษา 1 รางวัล
รางวัลชนะเลิศ
- รางวัลเงินสด 2,000 บาท
- ใบประกาศเกียรติคุณจาก วสท.
- นำภาพลงจดหมายข่าว วสท.
- ประกาศในเว็บไซต์ วสท.รางวัลชมเชย
- ใบประกาศเกียรติคุณ จาก วสท.
- นำภาพขึ้นเว็บไซต์ วสท.

Link: www.eit.or.th













โครงการประกวดภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ ประจำปี 2553



คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติอาคารเชียงใหม่ศิริพานิช เลขที่ 191 ถ. ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ. เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 หมาเลขโทรศัพท์ 0-5322-5569 หมายเลขโทรสาร 0-5322-5524เว็บไซต์: http://www.narit.or.th/
ติดตอสอบถาม คุณณรกมล ฑิฆัมภรธีรกุลว์เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
Link: http://www.narit.or.th/downloads/pdf/image2553.pdf

เทศบาลตำบลวิชิต จ.ภูเก็ต จัดประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ ท่องเที่ยววิถีไทยในวิชิต

เทศบาลตำบลวิชิต นำโดย นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต จัดประกวดภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยวในเขตเทศบาลตำลบวิชิต ในหัวข้อ “ท่องเที่ยววิถีไทยในวิชิต” เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตเทศบาลตำบลวิชิตให้เป็นที่รู้จัก
ขอเชิญผู้สนใจ ร่วมส่งภาพถ่ายเข้าประกวดตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2553 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
“ท่องเที่ยววิถีไทยในวิชิต” หมายถึง ภาพถ่ายที่แสดงถึงความสวยงาม ความประทับใจของแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ประเพณี วัฒนธรรม โบราณสถาน หรือ กิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจของตำบลวิชิตกติกาการส่งภาพเข้าประกวด
ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพถ่ายดิจิทัล ที่มีความละเอียดของภาพไม่ต่ำกว่า 6 ล้านพิกเซล
ผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องถ่ายภาพด้วยตนเอง ห้ามมิให้นำผลงานผู้อื่นส่งเข้าประกวดและภาพที่ส่งมานั้นต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใด ๆ มาก่อน
สามารถปรับสี ตกแต่งแก้ไขในด้านเทคนิคได้เพื่อให้ภาพมีคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งนี้ภาพจะต้องแลดูเป็นธรรมชาติเหมือนถ่ายภาพปกติ ไม่ตกแต่งให้ผิดไปจากความเป็นจริง
ส่งภาพเป็นภาพสี โดยมีขนาด 8×10 นิ้ว ติดภาพลงบนการ์ดแข็ง ขนาด 12 x 14 นิ้ว พร้อมส่งไฟล์ในแบบมาตรฐาน JPEG ที่มีคุณสมบัติกำหนดคุณภาพที่ 300dpi โดยบันทึกลงแผ่นซีดี
ด้านหลังการ์ดแข็งกรุณาติด “แบบฟอร์มการส่งภาพเข้าประกวด” โดยกรอกชื่อผู้ถ่าย ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ สถานที่ถ่ายภาพ ลำดับภาพ ชื่อภาพ ครบสมบูรณ์ (สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.phuket-vichit.go.th หรือ ขอรับด้วยตัวเองได้ที่เทศบาลตำบลวิชิต)
ภาพที่ส่งประกวดทุกภาพ เทศบาลตำบลวิชิต มีสิทธิ์นำไปเผยแพร่ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใด ๆ แก่เจ้าของภาพ ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ไม่ส่งแผ่นซีดีและภาพสีคืน
คณะกรรมการตัดสินภาพมีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสิน และการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ส่งภาพเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
พนักงานและลูกจ้างของเทศบาลตำบลวิชิต และคณะกรรมการตัดสิน ไม่มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด
สามารถส่งรูปภาพเข้าประกวดได้ไม่เกิน 1 รูปต่อหนึ่งคน
วิธีการส่งภาพเข้าประกวด
ส่งด้วยตัวเองได้ที่ งานประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลวิชิต 54/1 หมู่ที่ 1 ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 83000 หมายเลขโทรศัพท์ 0-7652-5100 ต่อ 102
ส่งทางไปรษณีย์โดยวงเล็บมุมซองว่า “โครงการประกวดภาพถ่าย” ตามที่อยู่ข้างต้น
กำหนดส่งภาพเข้าประกวด
สามารถส่งภาพเข้าประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2553 ในวัน-เวลาราชการ ทั้งนี้ หากส่งทางไปรษณีย์ จะถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ
ประกาศผลการตัดสิน
เทศบาลตำบลวิชิต จะประกาศผลการตัดสินในวันที่ 5 เมษายน 2553 โดยสามารถตรวจสอบผลการตัดสินได้ที่สำนักงานเทศบาลตำบลวิชิตและที่เว็บไซต์ www.phuket-vichit.go.th
รางวัล
รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท พร้อมโล่รางวัล
รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 6,000 บาท พร้อมโล่รางวัล
รางวัลชนะเลิศอันดับ 3 จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 4,000 บาท พร้อมโล่รางวัล
รางวัลชมเชย จำนวน 5 รางวัลๆ ละ 1,000 บาท พร้อมโล่รางวัล
Link: http://news.phuketindex.com

ประกวดภาพถ่าย และนิทรรศการ “Yaowarat in Love”

TCDCCONNECT.COM และ PORTFOLIOS*NET
ร่วมกับ โรงแรมเซี่ยงไฮ้แมนชั่น (www.shanghaimansion.com) และ Asahi Super Dry
จัดประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “เยาวราช In Love”
เนื่องด้วยในปีนี้วันตรุษจีนได้เดินทางมาตรงกับวันแห่งความรักพอดี (14 กุมภาพันธ์ 2553)ทาง TCDCCONNECT.COM, PORTFOLIOS.NET และโรงแรมเซี่ยงไฮ้แมนชั่น (เยาวราช) จึง ได้ร่วมมือกันจัดนิทรรศการประกวดภาพถ่ายภายใต้หัวข้อ “เยาวราช In Love” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่รักการถ่ายภาพให้ได้มีโอกาสแสดงฝีมือต่อสาธารณชนรู้จักเยาวราช“ถนนเยาวราช” เป็นถนนสายสำคัญสายหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มีระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ในอดีตเคยได้รับการขนานนามว่าเป็น "ถนนมังกร" เพราะมีชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเยาวราชจัดเป็นย่านการค้าและการท่องเที่ยวที่สำคัญ ชาวต่างชาติจะรู้จักถนนเส้นนี้กันในชื่อ "ไชน่าทาวน์" (China Town)เงื่อนไขและกำหนดการ1. การประกวดภาพถ่าย- ส่งผลงานร่วมประกวดได้ที่ yaowaratinlove@gmail.com (โดยให้ระบุชื่อนามสกุล, ชื่อภาพ, อีเมลและเบอร์โทรฯ ที่ติดต่อกลับได้สะดวก)- กรุณากำหนดขนาดภาพเป็น 11 x 14 นิ้ว ที่ 300 dpi
- ส่งได้คนละไม่เกิน 5 ภาพ พร้อมชื่อและคำบรรยายภาพ 2-3 บรรทัด/ภาพ
- เริ่มส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553- ประกาศผลผู้ได้รับคัดเลือกทั้ง 8 ท่าน ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2553 ทาง TCDCCONNECT.COM และ PORTFOLIOS.NET2. นิทรรศการ “เยาวราช In Love”- ผู้ชนะที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 8 ท่าน (คนละ 1 ภาพ) จะได้รับเกียรติให้ร่วมแสดงผลงานพร้อมกับช่างภาพกิตติมศักดิ์อีก 8 ท่าน อาทิเช่น คุณอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง (Remix Studio), ดร. ชวาล คูร์พิพัฒน์, ม.ร.ว เฉลิมชาตรี ยุคล (FukDuk), คุณภิรักษ์ อนุรักษ์เยาวชน (art4d magazine) ในนิทรรศการ “เยาวราช in love” ณ โรงแรมเซี่ยงไฮ้แมนชั่น (ชั้น 4) โดยจะมีพิธีเปิดนิทรรศการในวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 19.00 น.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณเปิ้ล โทร. 02-6647667 #122 หรือ e-mail: yaowaratinlove@gmail.comRead more: http://www.portfolios.net/page/yaowarat-in-love#ixzz0dtRU2bnQ

24 มกราคม 2553

โครงการประกวดภาพถ่ายชุด “คุณค่าของข้าวไทย”

แนวคิดโครงการ

โครงการประกวดภาพถ่าย “คุณค่าของข้าวไทย” ริเริ่มและดำเนินการขึ้น เนื่องจาก บริษัท น้ำมันบริโภคไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันรำข้าว “คิง” ได้เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของข้าวไทย พร้อมทั้งอยากให้เยาวชนไทยได้ตระหนักและสำนึกในคุณค่าและความสวยงามของเมล็ดข้าว รวงข้าว ทุ่งข้าว ตลอดจนวิถีชีวิตความผูกพันของข้าวกับชาวนาไทย ผ่านการถ่ายภาพ นอกจากนั้น ยังเป็นการสนับสนุนการกำหนดให้มี “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” คือ 5 มิถุนายน ของทุกปี ตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 อีกด้วย

วัตถุประสงค์
เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความสามารถ ทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์และศิลปะการถ่ายภาพ จากการนำเสนอภาพเกี่ยวกับ“ข้าว”และวิถีชีวิตความผูกพันของข้าวกับชาวนาไทย

เพื่อให้นักศึกษาได้เห็นถึงความสำคัญ คุณค่า และความสวยงามของข้าวไทย

เพื่อส่งเสริมการปลุกจิตสำนึกของคนไทยให้เห็นถึงคุณค่าของข้าวไทยและกระตุ้นให้เกิดความรักความหวงแหนข้าวไทย เกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของชาวนาไทยที่ได้สืบทอดกันมาอย่างช้านาน ผ่านการประชาสัมพันธ์โครงการฯ และการจัดนิทรรศการภาพถ่าย

คุณสมบัติผู้สมัคร
• นิสิต นักศึกษา ในระดับปริญญาตรี ทุกคณะ ทุกชั้นปี ทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
• มีใจรักในการถ่ายภาพ
• ชอบท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติ

หลักฐานการสมัคร
• ใบสมัคร พร้อมลายเซ็นของอาจารย์ที่ปรึกษา
• รูปถ่ายปัจจุบัน ขนาด 4x6 นิ้ว จำนวน 1 รูป
• สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาบัตรนักศึกษา

รายละเอียดการประกวดภาพถ่าย

แนวความคิด
ภาพถ่ายในหัวข้อ “คุณค่าของข้าวไทย” เป็นภาพความงดงามที่เกี่ยวข้องกับข้าวไทยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความงามของเมล็ดข้าว รวงข้าว ทุ่งข้าว การปลูก การเก็บเกี่ยว รวมถึงวิถีชีวิตของชาวนาที่ผูกพันกับข้าวในแง่มุมต่างๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึง “คุณค่าของข้าวไทย”

ประเภทของภาพ
1. ภาพสไลด์สีขนาด 35 มม.
2. ภาพดิจิทัลสี

เงื่อนไขการส่งผลงานเข้าประกวด
1. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ผู้สมัครจะต้องส่งเป็นภาพสี ขนาด 10 X 12 นิ้ว โดยระบุรายละเอียดที่ ด้านหลังภาพ ดังต่อไปนี้
1.1 ชื่อภาพ และหมายเลขของภาพ
1.2 รายละเอียดของการถ่ายภาพนั้น ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ ที่ถ่ายภาพ พร้อมทั้งบรรยายเรื่องราวของภาพ หรือเหตุการณ์ความประทับใจ ประมาณ 2-3 บรรทัด
1.3 ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวกของผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด
1.4 การลงนามรับรองของอาจารย์ที่ปรึกษาที่ระบุไว้ในใบสมัคร


กรณีเป็นภาพสไลด์สี
ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องแนบฟิล์มต้นฉบับในกรอบพลาสติกขนาด 2×2 นิ้ว เท่านั้น พร้อมทั้งเขียนชื่อ ที่อยู่ของผู้ส่ง หมายเลขประจำภาพ และจำนวนภาพ ที่ส่งภาพเข้าประกวด อย่างชัดเจนไว้บนกรอบสไลด์ และทำเครื่องหมายจุดกลมบนมุมล่างซ้ายทุกภาพ

กรณีเป็นภาพดิจิทัล

1. เป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิทัล หรือสแกนจากฟิล์มสามารถปรับสี ตกแต่งแก้ไขในด้านเทคนิค เพื่อให้ภาพมีคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งนี้ภาพจะยังต้องดูเป็นธรรมชาติเหมือนถ่ายภาพปกติ ห้ามตัดต่อและซ้อนภาพ ขนาดของไฟล์ต้องมีความละเอียด อย่างน้อย 6 ล้านพิกเซล รูปแบบของไฟล์ในแบบมาตรฐาน .TIFF หรือ .JPEG ที่มีคุณสมบัติ High Resolution ไม่ต่ำกว่า 300 dpi (ไม่รับภาพที่เป็น Raw File และไฟล์ที่เป็นสกุลอื่น) พร้อมบันทึกลงแผ่น CD-ROM
2. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ต้องเป็นภาพที่ถ่ายด้วยตนเอง และไม่เคยได้รับรางวัลจากโครงการประกวดใดๆ มาก่อน และต้องเป็นภาพที่ไม่เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร หนังสือ แผ่นภาพ หรือ เอกสารใดๆ ที่ทำขึ้นเพื่อการจำหน่าย
3. ภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลทั้งหมด และภาพถ่ายที่เข้ารอบสุดท้าย ทางคณะผู้จัดขอสงวนสิทธิในการคัดเลือกนำภาพไปจัดแสดงในที่ต่างๆ และสามารถดำเนินการจัดพิมพ์-เผยแพร่ผลงานในสูจิบัตร และเอกสารสิ่งพิมพ์ รวมทั้งสารสนเทศทุกประเภท โดยไม่ต้องแจ้งให้ทางเจ้าของภาพทราบล่วงหน้า
4. ส่งผลงานภาพถ่ายเข้าประกวดได้ไม่จำกัดจำนวนภาพ และทางผู้จัดจะส่งคืนภาพที่ไม่ได้ รับรางวัล (เฉพาะภาพสไลด์) ไปตามที่อยู่ของผู้ส่งเข้าประกวดที่ระบุไว้ในใบสมัครทางไปรษณีย์ หรือสามารถติดต่อรับคืนด้วยตนเองได้ที่ ฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันบริโภคไทย จำกัด
5. ภาพที่ส่งเข้าประกวดที่ไม่ถูกต้องตามกติกาการประกวดข้อใดข้อหนึ่ง จะไม่ได้รับการพิจารณา และแม้ว่าจะได้รับการพิจารณาให้ได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งไปแล้ว หากมีการท้วงติงถึงการทำผิดกติกาข้อใดข้อหนึ่ง และสามารถพิสูจน์ได้ว่าทำผิดกติกา ผู้จัดโครงการประกวดสามารถยกเลิก และเปลี่ยนแปลงการตัดสิน รวมทั้งขอคืนรางวัลได้ ภายใน 1 เดือน นับจากวันที่ประกาศผลการตัดสิน
6. ผู้ส่งภาพเข้าประกวด มีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว
7. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดทุกท่านยินยอมปฏิบัติตามกติกาที่ระบุไว้ทุกประการ และผลการตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สุด
8. ไม่เสียค่าธรรมเนียมการสมัคร
9. การส่งภาพเข้าประกวด ให้ถือว่าเจ้าของภาพตกลงปฏิบัติตามกติกาต่างๆ ข้างต้น
10. รายละเอียดเงื่อนไขและใบสมัคร สามารถ Download ได้ที่ www.KingRiceBranOil.com หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันบริโภคไทย จำกัด โทรศัพท์ (02) 249 9348 -52 โทรสาร (02) 249 4914


วิธีการส่งใบสมัครและผลงานโดยส่งใบสมัครและผลงานด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ บริษัท น้ำมันบริโภคไทย จำกัด 3366/6-8 ซอยมโนรม ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110

รางวัล
เงินรางวัลรวม 65,000 บาท แบ่งเป็น
รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร
รางวัลชมเชย จำนวน 10 รางวัล เงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร
หมายเหตุ ภาพที่ได้รับคัดเลือกให้แสดงผลงานในพิธีมอบรางวัล จะได้รับของที่ระลึกจากทางบริษัทฯ

คณะกรรมการตัดสิน1. ผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 3 ท่าน 2. คณะผู้บริหารจากบริษัท น้ำมันบริโภคไทย จำกัด จำนวน 2 ท่าน

เกณฑ์การตัดสิน คณะกรรมการตัดสินจะพิจารณาจาก 1. ความสวยงามของภาพที่สอดคล้องกับหัวข้อการประกวด 2. เทคนิคการถ่ายภาพ

กำหนดการ
• ประชาสัมพันธ์โครงการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 – มกราคม 2553
• เปิดรับใบสมัครและผลงาน ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553
• พิจารณาภาพและตัดสินรางวัล วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553
• ประกาศผลภาพที่ได้รับรางวัล วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2553 ทาง www.KingRiceBranOil.com และจะแจ้งผลให้ผู้ได้ที่รับรางวัลทุกท่านรับทราบทางโทรศัพท์หรือทางไปรษณีย์
• พิธีมอบรางวัลและแสดงภาพที่ได้รับรางวัลทั้งหมด จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2553 (เวลาและสถานที่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง)
• กำหนดการนี้เป็นการประมาณการตามข้อมูลในปัจจุบัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความ เหมาะสมในภายหลัง ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบ ทาง www.KingRiceBranOil.com

โครงการประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “วิถีแห่งสันติ”

หลักการและเหตุผล ปัจจุบันสังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาความรุนแรงต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับบุคคล องค์กร ชุมชน ประเทศ แม้กระทั่งไปจนถึงระดับระหว่างประเทศ ปัญหาความรุนแรงนี้มีทั้งความรุนแรงทางตรง (Direct Violence) เช่น การทะเลาะวิวาท การทำร้ายร่างกายและจิตใจ การก่อการร้าย การรบพุ่ง และความรุนแรงทางอ้อม (Indirect Violence) ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นความรุนแรงที่ประชาชนต้องทนทุกข์ อันเนื่องมาจากระบบสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่เป็นอยู่ เช่น ความยากจน การไม่มีงานทำ การเอารัดเอาเปรียบ การเหยียดเชื้อชาติศาสนา การทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของปัญหาความรุนแรงมาจากความไม่รู้ ความไม่เข้าใจ การไม่ยอมรับ และไม่เคารพในความแตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางชีวภาพ เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม เป็นต้น รวมทั้งยังมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการ วิถีแห่งสันติ (ซึ่งก็มีอยู่อย่างหลากหลาย) จึงเป็นทางออกของปัญหาดังกล่าวที่ประชาชนทุกรูปทุกนามควรเอาใจใส่ สร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มหาวิทยาลัยพายัพ จึงจัดโครงการประกวดภาพถ่ายครั้งนี้ โดยมุ่งหวังว่าภาพถ่ายนั้นจะเป็นสื่อที่ประชาชนสามารถเข้าร่วมสะท้อนแนวคิด “วิถีแห่งสันติ” ได้ง่ายและน่าสนใจ เพื่อส่งเสริมการลดพื้นที่ความรุนแรง และขยายพื้นที่แห่งสันติในสังคมต่อไป

วัตถุประสงค์ของการประกวด
- เพื่อให้ผู้สนใจได้แสดงออกถึงแนวคิดเกี่ยวกับวิถีแห่งสันติผ่านมุมมองของภาพถ่าย
- เพื่อส่งเสริมทัศนคติใฝ่สันติ
- เพื่อฉลองครบรอบ 35 ปี มหาวิทยาลัยพายัพ
- แนวคิดของการประกวดถ่ายภาพ หัวข้อ “วิถีแห่งสันติ” ภาพที่ส่งเข้าประกวดเป็นภาพถ่ายที่สะท้อนอุดมการณ์หรือค่านิยมที่สนับสนุนสร้างสรรค์การใฝ่ใจในสันติ หรือวิถีทางแห่งการสร้างสันติต่างๆ ในสังคม

ผู้รับผิดชอบโครงการ
คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ

ลักษณะของภาพที่ส่งเข้าประกวด
ภาพถ่ายสีหรือขาวดำ, ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มหรือกล้องถ่ายภาพดิจิตอล

ประเภทของการตัดสินภาพที่ส่งเข้าประกวดเข้าประกวด
ประเภทประชาชนทั่วไป ประเภทนักศึกษา

คุณสมบัติผู้ประกวด
ประชาชนทั่วไป นักศึกษา ที่กำลังศึกษาไม่เกินกว่าระดับปริญญาตรี

รางวัลการประกวด
ประเภทประชาชนทั่วไป
รางวัลที่ 1 : เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลที่ 2 : เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลที่ 3 : เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลชมเชย : 10 รางวัล

ประเภทนักศึกษา
รางวัลที่ 1 : เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลที่ 2 : เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลที่ 3 : เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลชมเชย : 10 รางวัล

กำหนดการส่งภาพเข้าประกวด
• ส่งผลงานได้ที่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 31 มกราคม 2553 ถือเอาวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ
• ประกาศผลการตัดสินวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553
• จัดนิทรรศการวันที่ 16-28 กุมภาพันธ์ 2553ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้สิรินธร

กติกาการส่งภาพประกวด และกำหนดการ
- เป็นภาพถ่ายด้วย กล้องดิจิตอล หรือกล้องฟิล์ม
- ภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มหรือกล้องดิจิตอล สามารถตกแต่งภาพด้วยโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ได้ โดยไม่ทำให้ภาพดูเกินเลยจากความเป็นจริงตามธรรมชาติ ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด
- ผู้ส่งและเจ้าของภาพต้องเป็นคนเดียวกัน ไม่เคยมีการเผยแพร่ต่อสาธารณชน หรือเคยได้รับรางวัลใดๆ มาก่อน
- ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ต้องอัดขยายลงบนกระดาษที่มีขนาดความกว้างด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า 15 นิ้ว - คณะกรรมการจะพิจารณาจากภาพที่ปรากฏบนภาพอัดขยายเท่านั้น และภาพทั้งหมดจะไม่ส่งคืน
- ด้านหลังของทุกภาพให้ระบุชื่อภาพ สถานที่ถ่ายภาพ ประเภทของการส่งเข้าประกวด ชื่อ-นามสกุลผู้ถ่ายภาพ ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก ในกรณีส่งประเภท นักศึกษาให้ระบุระดับการศึกษา สาขาวิชา มหาวิทยาลัย โดยมีข้อความบรรยายแนวคิด ของภาพความประทับใจเกี่ยวกับภาพที่ส่งเข้าประกวดประมาณ 2-3 บรรทัด
- ส่งภาพได้ไม่จำกัดจำนวน ผู้ส่งภาพเข้าประกวดมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียวเท่านั้น
- ภาพถ่ายที่ส่งประกวด อาจถูกนำไปแสดงบนเว็บไซต์ซึ่งบุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ ผู้จัดไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ สำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์จากบุคคลที่สาม
- ภาพที่ได้รับรางวัล ผู้จัดจะติดต่อให้เจ้าของภาพจัดส่งฟิล์มต้นฉบับหรือไฟล์ภาพดิจิตอลในแผ่นซีดี เพื่ออัดขยายสำหรับการจัดแสดงภาพ
- การตัดสินภาพถ่ายจะมีการแบ่งประเภทตามคุณสมบัติของผู้ส่งภาพเข้าร่วมประกวดเท่านั้น แต่จะไม่มีการแบ่งประเภทของภาพถ่าย โดยจะพิจารณาจากคุณค่าของผลงานเป็นหลัก
- คณะกรรมการมีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสิน
- การตัดสินของคณะกรรมการทั้งในรอบคัดเลือกและรอบตัดสินถือว่าเป็นที่สิ้นสุด
- คณะกรรมการจัดการประกวด และผู้สนับสนุนการการประกวดทุกท่านไม่มีสิทธิ์ในการส่งภาพเข้าประกวด
- ภาพถ่ายที่ผ่านเข้ารอบ 50 ภาพสุดท้ายจะถูกนำไปจัดนิทรรศการ ณ ศูนย์การเรียนรู้สิรินธร เป็นเวลาหนึ่งเดือน- การส่งภาพเข้าประกวด ให้ถือว่าเจ้าของภาพตกลงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้างต้น
- ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและกติกาตามความเหมาะสม

“ภาพแห่งชีวิต” ครั้งที่ 2


โครงการประกวดภาพถ่าย “ภาพแห่งชีวิต” ครั้งที่ 2 “Image of Life” The 2nd Photo Contest"ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๑. ชื่อโครงการ การประกวดภาพถ่าย “ภาพแห่งชีวิต” ครั้งที่ 2 [“Image of Life” The 2nd Photo Contest]
๒. หลักการและเหตุผล “ภาพ” เป็นสื่อที่สามารถถ่ายทอดได้ทั้งข้อมูลความรู้และ ศิลปะไปพร้อมกัน ภาพชีวิตทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์ อาทิ ภาพชีวิตของบุคคล ภาพของผู้ป่วย ภาพบุคลากรทางการแพทย์ หรือแม้แต่ส่วนประกอบของชีวิตขนาดเล็กจากกล้องจุลทรรศน์ นับเป็นสื่อที่ถูกใช้ เพื่อถ่ายทอดข้อมูลความรู้ที่มีคุณค่าในทางการแพทย์มาโดยตลอด หากผนวกด้วยความงดงามแห่งศิลปะการถ่ายภาพ จะยิ่งเป็นการเสริมคุณค่าให้แก่ภาพนั้นๆ มากขึ้น อันจะคงค่าและสามารถใช้อ้างอิงได้ต่อไปอย่างยั่งยืน ภาควิชาสรีรวิทยาร่วมกับคณะกรรมการดำเนินงาน “๖๐ ปี แพทย์จุฬาฯ” ได้จัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ และ ๖๐ ปี แพทย์จุฬาฯ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีผู้ร่วมกิจกรรมมากมาย และยังมีภาพอันทรงคุณค่าซึ่งถือเป็น “ลิขสิทธิ์” ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงได้ต่อไป ภาควิชาฯ จึงดำริ จะจัดโครงการประกวดภาพถ่าย ครั้งที่ 2 สำหรับประจำปี 2552
๓. วัตถุประสงค์ ๑) เพื่อเป็นกิจกรรมสืบสานทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทย๒) เพื่อคัดสรรและประกาศเกียรติคุณแก่ผู้มีผลงานภาพถ่ายทางการแพทย์ และ วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทางวิชาการและศิลปะ ๓) เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าทางศิลปะของสื่อภาพทาง การแพทย์และวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์
๔. วิธีดำเนินการ
๑) เปิดรับภาพทั่วไป ไม่จำกัดเพศ วัย อายุ ของผู้ร่วมกิจกรรม
๒) เป็น ภาพสี หรือ ภาพเอกรงค์ (ภาพขาวดำ) ส่งได้ไม่เกิน ๑๐ ภาพ/คน
๓) เป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับภาพชีวิตของบุคคล, ภาพของผู้ป่วย, ภาพบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติงาน ภาพส่วนประกอบของชีวิตขนาดเล็ก จากกล้องจุลทรรศน์ ภาพในห้องปฏิบัติการ หรือ ภาพอื่นๆ ที่แสดงถึง “ ชีวิต ” ส่งเป็น File ภาพถ่าย ชนิด jpeg, tiff ขนาดพิมพ์ A๓ ได้ละเอียดชัดเจน พร้อม file ชื่อภาพ (ไม่เกิน ๑ บรรทัด) สามารถใช้ภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษตามสะดวก โดยส่งมาในรูปแบบ Microsoft Word file ในแผ่น CD หรือ DVD
๔) มีคณะกรรมการตัดสินอย่างเป็นทางการ โดยมีรางวัลดังต่อไปนี้
- รางวัล “ยอดเยี่ยม” ๑ รางวัล ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกียรติบัตร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เงินสด ๕๐,๐๐๐ บาท
- รางวัล “ดีเด่น” ๓ รางวัล โล่พระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกียรติบัตร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เงินสด รางวัลละ ๑๐,๐๐๐ บาท
- รางวัล “ชมเชย” ๕ รางวัล โล่เกียรติยศ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เกียรติบัตร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เงินสด รางวัลละ ๕,๐๐๐ บาท
- รางวัล “ผู้เข้ารอบ” ๑๐ รางวัล
เกียรติบัตร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เงินสด รางวัลละ ๑,๐๐๐ บาท
๕) เกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้ คะแนนรวม ๑๐๐ คะแนน แบ่งเป็น
- ภาพ (ความสวยงาม–การสื่อความหมาย) ๙๐ คะแนน
- ชื่อภาพ ๑๐ คะแนน
๖) เงื่อนไข
- คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด ภาพที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย และภาพที่ได้รับรางวัล ถือเป็น “ลิขสิทธิ์” ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๗) ขอให้ระบุ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้สะดวก ส่งภาพมาที่ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปทุมวัน กทม. ๑๐๓๓๐ โทรศัพท์ ๐๒- ๒๕๖๔๒๖๗ ต่อ ๒๐๕๑
๕. ระยะเวลาดำเนินการ
เปิดรับภาพ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง ๓๐ มกราคม ๒๕๕๓ ประกาศผล ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓แสดงภาพในงานพระราชพิธีวางพวงมาลา วันอานันทมหิดล ๙ มิถุนายน ๒๕๕๓
๖. สถานที่
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๗. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
๑) เป็นการสืบสานการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทย
๒) ได้ภาพทางวิทยาศาสตร์ ที่สวยงามและมีเรื่องราวสอดคล้องกับด้านการแพทย์ อันจะเป็นสมบัติที่มีค่า และคุณค่าของคณะฯ ต่อไป
๓) เกิดความแปลกใหม่ในวงการถ่ายภาพและทางการแพทย์ไปพร้อมกัน อันจะส่งผลดีและโดดเด่นต่อ “เกียรติภูมิแพทย์จุฬาฯ”
๔. เกิดการย้ำเตือนภาพลักษณ์ของคณะฯ ที่ดี ในวงกว้างยิ่งขึ้น
๘. ผู้รับผิดชอบโครงการ
คณะกรรมการดำเนินการโครงการประกวดภาพถ่ายแห่งชีวิต ครั้งที่ ๒ และภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
1. คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ที่ปรึกษา
2. รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ประสงค์ ศิริวิริยะกุล ที่ปรึกษา
3. รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงดวงพร ทองงาม ประธานกรรมการ
4. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อนันต์ ศรีเกียรติขจร กรรมการ
5. รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงอรอนงค์ กุละพัฒน์ กรรมการ
6. หัวหน้าหน่วยประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ กรรมการ
7. หัวหน้าหน่วยงานอาคารสถานที่ คณะแพทยศาสตร์ กรรมการ
8. หัวหน้าหน่วยโสตทัศนศึกษา คณะแพทยศาสตร์ กรรมการ
9. รองศาสตราจารย์นายแพทย์ สมพล สงวนรังศิริกุล กรรมการและเลขานุการ
๙. วิธีการประเมินผล
ประเมินผลจากการสำรวจความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
(รศ.พญ.ดวงพร ทองงาม)
หัวหน้าภาควิชาสรีรวิทยา และประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการประกวดภาพถ่ายแห่งชีวิต

เชิญชวนประกวดภาพถ่ายหัวข้อ " ชีวิต - ศิลป์"

เชิญชวนประกวดภาพถ่ายหัวข้อ " ชีวิต - ศิลป์"
ด้วยศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา จะจัดให้มีกิจกรรมเปิดศูนย์เรียนรู้ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และเพื่อให้กิจกรรมดังกล่าวมีบรรยากาศ เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์งานศิลปะด้านการถ่ายภาพแก่กลุ่ม นักศึกษา บุคลากร มวล.และประชาชนทั่วไปจึงจัดให้มีกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายขึ้นในหัวข้อ " ชีวิต - ศิลป์" "โดยหลังจากการตัดสินการประกวดภาพถ่ายแล้วจะนำภาพที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมดมาจัดแสดงนิทรรศการ ณ บริเวณศูนย์เรียนรู้อาคารบรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
หลักการและเหตุผล
ในการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติของคนเรานั้น เรามักจะมีการนำความเป็นศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในแทบจะทุกกิจกรรมทั้งโดยที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า จนเข้านอนอีกครั้งในตอนกลางคืน ทุกเวลาเราจะมีการใช้การประยุกต์การพัฒนาศิลปะของสิ่งต่าง ๆ เข้าไปเกี่ยวข้องกับชีวิตเราเสมอทั้งนี้เพื่อความพึงพอใจในผลงาน และเพื่อประสิทธิผลในการทำงาน หากมีการนำศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้องในแง่มุมต่างๆ ของชีวิตเราแล้ว จะทำให้ชีวิตนั้นดูงดงามมีคุณค่า น่าจรรโลงใจ เพิ่มเสน่ห์ในการใช้ชีวิตมากขึ้นในบางอาชีพแล้ว การใช้งานหรือทักษะที่เป็นศิลปะเข้ามาจับต้อง ยังสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกมากมายดังนั้นหากมองให้ลึกซึ้ง จึงมีศิลปะแอบแฝงอยู่ในทุกแง่มุมของชีวิต
ศิลปินเองจึงไม่ใช้ผู้สร้างผลงานเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเพียงผู้สะท้อนศิลปะแห่งชีวิตในแง่มุมต่างๆออกมาให้ผู้อื่นได้เห็น ผ่านเทคนิคต่างๆไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ดนตรี กวี ภาพถ่าย หรืออื่นๆ
ดังนั้นการประกวดภาพถ่าย " ชีวิต - ศิลป์" จึงเป็นการสะท้อนศิลปะแห่งการดำรงชีวิตในแง่มุมต่างๆ โดยช่างภาพผ่านเทคนิคและอุปกรณ์การถ่ายถาพออกมาให้แก่ผู้อื่นได้เห็นอย่างลึกซึ้ง
หน่วยงานผู้รับผิดชอบ- ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
วัตถุประสงค์
- เพื่อเป็นกิจกรรมส่งเสริมกิจกรรมการเปิดศูนย์เรียนรู้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
- เพื่อให้ผู้สนใจสามารถนำศิลปะมาประยุกต์กับชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์ในแง่มุมต่างๆ
- เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์งานศิลปะด้านการถ่ายภาพแก่กลุ่ม นักศึกษา บุคลากร มวล.และประชาชนทั่วไป
ผู้มีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าประกวด
นักเรียนนักศึกษา และประชาชนคนทั่วไป
ลักษณะของภาพถ่าย
- เป็นภาพถ่ายที่มีความงามทั้งเนื้อหา และคุณค่าทางศิลปะ
- เป็นภาพถ่ายที่ถ่ายทอดออกมาซึ่งศิลปะในแง่มุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป
กติกาการประกวดภาพ
- ในการสมัครเข้าร่วมประกวดภาพ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
- ผู้เข้าประกวดมีสิทธิ์ส่งภาพได้ไม่จำกัดจำนวนภาพ
- หากผู้ส่งเข้าประกวดได้รับรางวัลมากกว่า 2 รางวัล จะมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียง 2 รางวัล
- เขียน ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรที่ติดต่อได้, ข้อมูลพื้นฐานของการถ่ายภาพอย่างชัดเจนบนด้านหลังของภาพทุกภาพ
- ขนาดของภาพต้องมีด้านหนึ่งด้านใดไม่ต่ำกว่า 10 นิ้ว ไม่ต้องติดบนกระดาษแข็ง
- เป็นภาพสีหรือขาวดำ โดยไม่จำกัดต้นฉบับว่าจะเป็น ฟิลม์สีขาวดำ, ฟิลม์สไลด์, หรือไฟล์ดิจิตัล
- ภาพจากต้นฉบับดิจิตัล ต้องไม่ทำภาพด้วยเทคนิคที่ซับซ้อนแก้ไขตกแต่ง ผิดหรือเกินความเป็นจริงตามธรรมชาติ
- ภาพที่ส่งประกวดทั้งหมดจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จัด
- ภาพที่ได้รับรางวัล เจ้าของภาพจะต้องส่งมอบฟิลม์เนกาทิฟ ฟิลม์สไลด์ ไฟล์ดิจิตัล (ความละเอียดไม่ต่ำกว่า 3 ล้านพิกเซล) ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จัดในวันมอบรางวัล
- ผู้จัดพยายามรักษาภาพที่เข้าร่วมประกวดให้ดีที่สุด กรณีภาพเสียหาย เจ้าของภาพไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายใดใดทั้งสิ้น
- คณะกรรมการตัดสินภาพมีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสินภาพ และความเห็นของคณะกรรมการให้ถือเป็นที่สิ้นสุดและไม่รับอุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
- ผู้จัดถือว่าผู้ส่งภาพเข้าประกวดทราบกติกาและยินดีปฏิบัติตามทุกประการ
กรรมการตัดสินภาพ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 ท่าน
- อ.ภิญโญ เพ็ชรแก้ว วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช ประธานกรรมการตัดสิน
- นายแพทย์รังสิต ทองสมัคร (ประธานชมรมถ่ายภาพนครศรีธรรมราช) กรรมการ
- นายธวัชชัย เวชโช (รองประธานชมรมถ่ายภาพนครศรีธรรมราช) กรรมการ
- นายวรกิจ มิตรกูล กรรมการ (กรรมการชมรมถ่ายภาพนครศรีธรรมราช) กรรมการ
- ตัวแทนจากศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา กรรมการ
ระยะเวลา
- ส่งภาพภายในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 12 มีนาคม 2553 หากส่งทางไปรษณีย์ถือเอาวันที่ประทับทางไปรษณีย์เป็นสำคัญ
- ตัดสินภาพ วันที่ 16 มีนาคม 2553 เวลา 13.00 น. ณ อาคารบรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
- รับรางวัล วันที่ 30 มีนาคม 2553 ณ อาคารบรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
รางวัล
"ประเภทนักเรียนนักศึกษา"
รางวัลชนะเลิศ ประกาศณียบัตร พร้อมเงินรางวัล 3000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประกาศณียบัตร พร้อมเงินรางวัล 2000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประกาศณียบัตร พร้อมเงินรางวัล 1000 บาท
รางวัลชมเชย 1 ประกาศณียบัตร พร้อมของที่ระลึกรางวัลชมเชย 1 ประกาศณียบัตร พร้อมของที่ระลึก
"ประเภทประชาชนทั่วไป"
รางวัลชนะเลิศ ประกาศณียบัตร พร้อมเงินรางวัล 3000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประกาศณียบัตร พร้อมเงินรางวัล 2000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประกาศณียบัตร พร้อมเงินรางวัล 1000 บาท
รางวัลชมเชย 1 ประกาศณียบัตร พร้อมของที่ระลึกรางวัลชมเชย 1 ประกาศณียบัตร พร้อมของที่ระลึก
สถานที่ส่งภาพประกวด (ส่งได้ด้วยตัวเอง และทางไปรษณีย์)
- อาคารบรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 222 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 80160
- ร้านฟ้าใส โฟโต้& สตูดิโอ (ตรงข้ามธนาคารออมสินท่าศาลา) ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 80160 โทร 075-330135
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- นายนาวิน เนาวพงศ์ โทร. 075-673307 089-474-0983
- ร้านฟ้าใส โฟโต้& สตูดิโอ โทร. 075-330135